02 มกราคม 2552

- TOEFL: Writing 185 Topics

สวัสดีครับวันนี้ผมมี material เกี่ยวกับการสอบภาษาอังกฤษTOEFL โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการเขียนครับ

ก่อนอื่นอยากจะขอพูดเชิงกว้างๆแนะนำก่อน เพื่อจะได้เข้าใจตรงกันก่อน เกี่ยวกับการสอบ TOEFL(โทเฟล), TOEIC(โทอิก), IELTS(ไอเลสท์) เป็นต้น ผมยอมรับว่าตอนผมเรียนอยู่ระดับปริญญาตรี ผมก็ไม่รู้เรื่องเท่าไหร่นัก ก็ขอเกริ่นนำสักเล็กน้อย


แบบที่ 1. IELTS (International English Language Testing System)

IELTS หรือการทดสอบภาษาอังกฤษระดับนานาชาติ ได้รับการออกแบบเพื่อใช้ประเมินความสามารถด้านภาษา นิยมนำไปใช้เพื่อสมัครเรียนต่อประเทศ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร เป็นหลัก ประเทศก็มีบ้างต้องตรวจสอบจากมหาวิทยาลัยประเทศนั้นโดยตรง ข้อดีนั้นมีหลายรอบในหนึ่งเดือน สอบในกรุงเทพได้เลย
.
สนใจติดต่อที่ http://www.britishcouncil.co.th/ หรือ http://www.britishcouncil.org/th/thailand


แบบที่ 2. TOEIC (Test of English for International Communication)

การสอบ TOEIC เป็นการสอบเพื่อวัดระดับความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการสมัครเข้าทำงานในธุรกิจ ทางด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรม ธุรกิจการบิน และอุตสาหกรรมโรงงานข้ามชาติอีกหลายแห่ง

การสอบ TOEIC สามารถยกระดับหน้าที่การงานของตนให้เจริญก้าวหน้า เช่น สมัครเข้าทำงาน เพื่อเพิ่มเงินเดือน และเลื่อนตำแหน่งแก่พนักงาน

หมายเหตุ นักศึกษาชั้นปีสุดท้าย ที่จะทำงานเลยหลังจบ มักจะเตรียมตัวสอบตัวนี้ เพื่อนำไปใช้ในการสมัครงานกัน และราคาของการสอบถูกกว่า IELTS และ TOEFL มาก

.

.
แบบที่ 3. TOEFL (The Test of English as a Foreign Language)
.
จริงๆแล้ว TOEFL เป็นการสอบเพื่อเข้าศึกษาต่อในประเทศอเมริกาเป็นหลัก แต่การเรียนประเทศอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร เป็นต้น หลายมหาวิทยาลัยก็ยินดีที่จะรับผลคะแนน TOEFL แต่กลับกันถ้านำผลคะแนนของ IELTS ไปสมัครเรียนมหาวิทยาลัยที่อเมริกาส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะรับ (ลองตรวจสอบมหาวิทยาลัยให้แน่ใจก่อนนะครับ)

.
สำหรับการสมัครเข้าทำงานนั้นหลายที่ก็ยินดีที่จะรับผลของ TOEFL แต่ค่าสอบของ TOEFL สูงถึงประมาณ 4,500-5,000 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราการแลกเปลี่ยนด้วย ดังนั้นนักศึกษาที่มั่นใจว่าจะทำงานแน่นอนไม่เรียนต่อ ก็จะไปสอบ TOEIC จะดีกว่า

.

.

TOEFL จะแบ่งการสอบเป็น 3 ตระกูลใหญ่ๆ คือ
.
3.1 TOEFL CBT (computer-based testing) ณ ปัจจุบันไม่มีการสอบแบบนี้แล้ว เพราะเปลี่ยนไปเป็นแบบ TOEFL iBT แทน

.


3.2 TOEFL PBT (paper-based testing)


ปัจจุบันยังมีการสอบอยู่ แต่เต็มเร็ว และมีรอบการสอบน้อย

.

- มีการวัดทักษะการฟัง โครงสร้างไวยากรณ์ การอ่าน และการเขียน โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง เป็นการสอบโดยใช้ปากกาและดินสอ ไม่มีการใช้คอมพิวเตอร์แต่อย่างไร
.
ผมมีตัวอย่างข้อสอบอยู่ที่ชั้นวางหนังสือที่ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ สจล. ถ้าสนใจก็ลองไปขอยืมพี่แตนที่ภาควิชาฯดูแล้วกัน


- จะสังเกตได้ว่าไม่มีการสอบ Speaking ไม่มีในส่วนของ Intregrate แต่มีในส่วนของ Grammar อันได้แก่ Structure และ Written แทน (ถือว่าค่อนข้างง่ายแต่ต้องใช้เวลาเยอะพอสมควรในการฝึกทำโจทย์)

.
- โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ในการสอบ TOEFL pbt

.
- ในประเทศไทยจะเต็มเร็วมาก ต้องจองข้ามปีกันทีเดียว สอบประมาณ 6 ครั้งต่อปี ขอเน้นว่าในกรุงเทพไม่มีศูนย์สอบ TOEFL แบบ PBT มักจะมีที่จังหวัดนครศรีธรรมราช บางปีก็มีที่พิษณุโลก และหาดใหญ่



- มีนักเรียนไทยจำนวนไม่น้อยที่ต้องบินไปสอบที่ย่างกุ้งประเทศพม่า หรือไม่ก็ที่ ปีนัง ประเทศมาเลเซีย



3.3 TOEFL iBT (Internet-based testing)

มีการเพิ่มข้อสอบวัดทักษะในการพูดแบบเสนอผลงาน (presentation) และการทดสอบทักษะการใช้ภาษาหลายอย่างพร้อมกัน (integrate task)
.
- ข้อสอบ TOEFL iBT วัดความสามารถการใช้ภาษาใน 4 ทักษะคือ Reading, Listening, Writing, และ Speaking (ข้อสอบรูปแบบ iBT ยากกว่าข้อสอบเดิมมากหากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมลองค้นหาทาง google ดูก็ได้)
.
- ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง เป็นการสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์แบบ online
.
- มีศูนย์สอบค่อนข้างจะมาก และในหนึ่งเดือนก็มีหลายวัน
.
.
แนะนำมาสักยาว แต่จริงเนื้อหายาวกว่านี้อีกนะครับ แต่เรื่องที่ผมอยากจะพูดถึงคือข้อสอบของ TOEFL ในส่วนของการเขียน (Writing) เขาก็มีการพูดกันว่าหัวข้อ (Topics) ที่นำมาออกข้อสอบให้เขียนเรียงความ (Essay) นั้น จะวนเวียนสลับเปลี่ยนสุ่มจาก 185 เรื่องนี้เท่านั้น ดังนั้นผมจึงมีเอกสารมาฝากครับ -> Download Writing 185 Topics


และสูตรการเขียน -> Download Help_Writing

.
สนใจในการสอบ TOEFL และ TOEIC เข้าไปดูเว็บไซต์ที่ http://www.ets.org/
.

หรืออยากจะขอคำแนะจากตัวผม ก็ส่ง email: kittiwat.sirikasemsuk@gmail.com (ฟรีๆ)
.
.