17 เมษายน 2553

- ครั้งแรกกับ...วัดภูจ้อก้อ

ในวันสุดท้ายในการเดินทางไปอีสานในช่วงสงกรานต์ 2553 นอกจากจะไปไหว้นมัสการพระธาตุพนม จ.นครพนม และขากลับสามารถเดินทางกลับได้หลายทาง ถ้ากลับเส้นสกลนคร-นาแก ข้าพเจ้าก็ตั้งใจจะแวะวัดป่าบ้านโคก หรือนั่นคือวัดป่าวิสุทธิธรรม ซึ่งท่านพระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ ได้สร้างให้หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตอยู่จำพรรษาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๗
.
แต่ทางครอบครัวของข้าพเจ้าได้ตัดสินใจเดินทางผ่าน จ.มุกดาหาร เมื่อเปิดแผนที่ดู ปรากฎว่าใกล้กับวัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) นั่นก็คือวัดที่หลวงปู่หล้ามาจำพรรษาอยู่นั่นเอง และหลวงปู่หล้าอยู่ที่นี่จนถึงวาระสุดท้าย ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจต้องเดินทางไปวัดหลวงปู่หล้าให้ได้
.
เมื่อตอนเรียนอยู่ระดับปริญญาตรี ได้ฟังอาจารย์วิวัฒน์ กิรานนท์ อาจารย์ที่ปรึกษาชมรมพุทธศาสตร์และประเพณี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯลาดกระบัง ได้กล่าวถึงหลวงปู่หล้าอยู่หลายครั้ง (อาจารย์วิวัฒน์ เคยบวชอยู่กับหลวงปู่หล้า) แต่ข้าพเจ้าก็ไม่มีโอกาสเลยสักครั้ง ในการไปวัดภูจ้อก้อแห่งนี้
รูป ทางขึ้นไปยังภายในวัด

รูป ทางขึ้นไปยังภายในวัด (ถ่ายภาพจากด้านบน)

รูป ทางขึ้นและทางลง อีกเส้นทางหนึ่ง
.
แต่มาในครั้งนี้ ข้าพเจ้าและครอบครัวได้มากราบนมัสการสถานที่ที่ศักด์สิทธิ์แห่งนี้ ที่ครูบาอาจารย์เคยมาจำพรรษาอยู่แห่งนี้ ถือว่าเป็นสิริมงคลแก่ข้าพเจ้าและครอบครัวเป็นอย่างมาก
.
ข้าพเจ้าเคยเห็นแต่ในรูป "เขมปัตตเจดีย์" ในหนังสือธรรมะ แต่คราวนี้ได้มีโอกาสมากราบนมัสการเจดีย์ที่เก็บอัฐบริขาร เครื่องใช้ของท่านหลวงปู่หล้า
รูปป้ายชื่อเจดีย์ "เขมปัตตเจดีย์"

รูป เจดีย์ "เขมปัตตเจดีย์"
.
ภายในเจดีย์ จะมีรูปเหมือนของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต และอัฐิธาตุของหลวงปู่หล้า เพื่อให้พุทธศานิกชนได้กราบไหว้ ระลึกถึงคำสั่งสอนของท่าน
รูป หุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต

รูป หุ่นขี้ผึ้งและอัฐิธาตุของหลวงปู่หล้า

รูป ตัวอย่างรูปภาพนิทรรศการชั้นที่1 ภายในเจดีย์เขมปัตตเจดีย์ งานถวายเพลิงศพหลวงปู่

รูป กุฏิของหลวงปู่หล้า

รูป กุฏิของหลวงปู่หล้า (2)

รูป กุฏิของหลวงปู่หล้า (3)

รูป รอบๆ วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ)

รูป รอบๆ วัดบรรพตคีรี (2)

รูป แท็งค์น้ำ

รูป ตัวอย่างกุฏิของวัดบรรพตคีรีท่ามกลางธรรมชาติ

รูป พระพุทธรูปก่อนขึ้นไปบนยอด

รูป พระพุทธรูปก่อนขึ้นไปบนยอด (2)

รูป ที่ล้างบาตรของพระภิกษุสงฆ์

รูป รอบๆวัดท่ามกลางธรรมชาติ

รูป ลานที่จอดรถของทางวัด
.
ความโชคดีของข้าพเจ้ายังไม่หมดเท่านั้น ปรากฎว่ามีผู้ใจบุญ ได้พิมพ์หนังสือชีวประวัติของหลวงปู่หล้าแจกเป็นธรรมทานซึ่งวางแจกอยู่ภายในเจดีย์ (ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญด้วย) หนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า "พระหล้า เขมปตฺโต" โดยเนื้อกระดาษเป็น "Green Read" หนาพอสมควร ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะข้าพเจ้าอยากได้มานานแล้ว เพราะหนังสือของหลวงปู่หล้านั้น ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่าหาได้ยากพอสมควร ที่จะมีการทำแจกเป็นธรรมทานกัน
.
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ตอนเที่ยงคืน ข้าพเจ้าก็ได้หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาอ่านสักพัก จริงๆต้องบอกว่าวางไม่ลงจริงๆ เนื้อหานั้นมีคุณค่ามากจริงๆ ตัวอย่างเช่น หลวงปู่หล้าได้เล่าถึงในช่วงวาระสุดท้ายของหลวงปู่มั่น ซึ่งหลวงปู่มั่นท่านป่วย และต้องย้ายหลวงปู่มั่น จากวัดป่าหนองผืด มายังวัดป่าสุทธาวาส และตัวอย่างอีกช่วงที่ท่านหลวงปู่มั่นมีลมหายใจอ่อนลงเบาบางลง เป็นต้น ข้าพเจ้าไม่สามารถเล่าให้ฟังได้ เพราะหลวงปู่หล้าได้เขียนลึกซึ้งอย่างมาก ผู้สนใจสามารถไปยืมได้ที่ห้องสมุดชมรมพุทธฯ พระจอมเกล้าฯลาดกระบัง (ข้าพเจ้าจำได้ว่าที่ชมรมฯ มีหนังสือเล่มนี้อยู่)
รูป หนังสือ"พระหล้า เขมปตฺโต"
.
อนึ่ง ข้าพเจ้าลืมบอกไปว่า ในช่วงอายุสุดท้ายของหลวงปู่มั่น มีพระอาจารย์ที่ได้อยู่ใกล้ และได้ดูแลองค์หลวงปู่มั่น เช่น ครูบาวัน (ปัจจุบันคือพระอาจารย์วัน อุตตโม) ครูบาทองคำ(หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ) ครูบาสีหา (อดีตพระสีหา สุธัมโม ปัจจุบันคือฆราวาส) รวมถึงครูบาหล้า (ปัจจุบันคือหลวงปู่หล้า เขมปัตโต)
.
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นและเรียบเรียงโดยหลวงปู่หล้าเอง มีอีกประเด็นที่ข้าพเจ้าอยากฝากไว้และไม่สามารถหาอ่านได้ที่ใด เกี่ยวกับลักษณะพิเศษของหลวงปู่มั่นที่หลวงปู่หล้าได้บันทึกไว้ คือ "ฝาเท้าของหลวงปู่มั่น เต็มไปด้วยตารางหมากรุกทั้งสองฝาเท้า"
.
.
.
.
ข้อความดังกล่าว เป็นลายมือที่ท่านหลวงปู่หล้าได้เขียนด้วยตัวเอง
.
ข้าพเจ้าขอเขียนเล่าเพียงเท่านี้ พอแก่เวลา สวัสดีครับ
.
กิตติวัฒน์ สิริเกษมสุข
17 เมษายน 2553
.
หมายเหตุ รูปทุกรูปสามารถคลิกเลือก เพื่อขยายใหญ่ได้