.
"ตอนเด็ก คนที่มีอายุ 50 ปีก็ถือว่า เป็นอายุยาวแล้วหรือว่าถ้าเรามีอายุเท่านี้ก็พอใจแล้ว แต่ตอนมาเป็นวัยเข้ากลางคน กระผมได้ไปพิจิตรไปเจอคนอายุ 50 ปีเป็นมะเร็งตาย เราก็บ่นขึ้นมาว่า 50 เองหรอ ทำไมอายุน้อยจัง"
.
ในต้นปี เดือนมกราคม ก็ได้ไปทำบุญตามโอกาส เช่น ไปวัดไผ่ล้อมที่จ.ปทุมธานีถวายสังฆทานบ้าง ไปตลาดซื้อปลาไปปล่อยบ้าง ซื้อข้าวสารให้แก่ เด็กในงานวันเด็กบ้าง ทำบุญสร้างระบบไฟฟ้าให้วัดบ้าง เป็นต้น
พระท่านว่า "การทำบุญหรือการทำความดี ด้วยการทำทานก็ไม่เท่ารักษาศีล การรักษาศีลก็ไม่เท่าทำสมาธิ นำไปสู่การเกิดปัญญาเห็นความเป็นจริง
.
หรือกล่าวโดยย่อว่า อานิสงค์ทำทาน1ครั้ง < อานิสงค์รักษาศีล1ครั้ง < อานิสงค์สมาธิ1ครั้ง < อานิสงค์จากการเกิดปัญญา (ปัญญาในที่นี้คือปัญญาในทางธรรม ไม่ใช่ปัญญาในทางโลก เรื่องวิชาความรู้ทางวิศวกรรม ทางเกษตรกรรม หรืออุตสาหกรรม ฯลฯ) . จากความเชื่อตามพระพุทธศาสนาที่ว่า คนเรายังจะต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ดังนั้นทานและศีลยังถือว่า เป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่เป็นอย่างมาก เป็นการเตรียมเสบียงไว้เดินทางในอนาคต . บังเอิญว่าข้าพเจ้าได้รับหนังสือ 1 เล่ม (จริงๆก็ไได้หลายเล่มอยู่) จากชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รูป ชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน หอพระ (ฝั่งซ้าย) ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต.
ก็เป็นหนังสือที่ดีมาก เรียบเรียงโดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ชื่อหนังสือว่า "วิธีสร้างบุญบารมี" ทำให้ข้าพเจ้ามความเข้าใจอะไรๆมากขึ้น
ก็เป็นหนังสือที่ดีมาก เรียบเรียงโดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ชื่อหนังสือว่า "วิธีสร้างบุญบารมี" ทำให้ข้าพเจ้ามความเข้าใจอะไรๆมากขึ้น

ขอย้อนกลับมา เมื่อกล่าวถึง "การภาวนา" หรือ "จิตภาวนา" หรือ "การพัฒนาจิต" นั่นก็คือ "การฝึกสมาธิ" สำหรับอบรมจิต และถามว่าจะได้อะไร
เขาบอกกันว่า "การฝึกจิตนั้น ในอนาคตจะไม่กลัวความตาย เมื่อเวลานั้นมาถึง"
.
สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เข้าได้ สอบเรียนต่อก็ทำได้ จนกระทั่งเรียนจบ เรียนหนังสือได้คะแนนเต็ม 50 หรือเต็ม 100 ก็ได้มาบ้าง (ไม่ธรรมดาจริงๆ)
.
แต่ถ้าลองกลับมาในเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ โดยให้ลองอยู่เฉยๆ แล้วลองดูลมหายใจตัวเอง เพียงแค่ 5 นาที โดยเพียงแค่ตามดูลมหายใจเข้า และตามดูลมหายใจออก โดยที่ห้ามคิดเรื่องอื่น โอ๋....ทำไมถึงยากจัง อย่าว่าแต่ 5 นาทีเลย เพียงแค่ 1 นาทีก็ยังยากลำบากเลยครับ นี่แหละเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ และลงทุนน้อยไม่ต้องเสียเงินเลยแต่พระท่านว่าได้บุญมาก
.
เมื่อตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยตอนปริญญาตรี ได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า "การพัฒนาจิต" แต่งโดย พระเทพวิสุทธิกวี
เป็นหนังสืออีกเล่มครับที่ดีมากๆ เนื้อหาภายในหนังสือในบางช่วง ได้กล่าวถึงลักษณะของจิต อาทิเช่น- จปลํ -กวัดแกว่ง คือ ไม่หยุดอยู่ในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งได้นาน เหมือนเด็กทารกไม่หยุดนิ่งอยู่ในอิริยาบถหนึ่งได้นาน
- ทูรงฺคมํ -ไปได้ไกล คือ ออกรับอารมณ์ในที่ไกลได้ เช่นขณะที่ตนนั่งอยู่นี้ก็อาจคิดไปถึงประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
.พูดเกริ่นมาสักยาวเลยนะครับ ผมอยากจะเพิ่มเติมเนื้อหาคือ "ตัวอย่างพระอริยะสงฆ์ที่ทนกับการอาพาธ นำไปสู่การวางขันธ์ธาตุโดยสงบ" จากหนังสือแสงธรรม ของ อาจารย์วิวัฒน์ กิรานนท์ เป็นผู้เรียบเรียง
- แสงธรรมเล่มที่ 9 คำของท่าน ชื่อตอนว่า เจ้าคุณนรฯ (พระยานรรัตนราชมานิต) จากหน้า 53-62
- แสงธรรมเล่มที่ 23 เย็นลออตอน รู้วันตายหลวงพ่อลี (พระอาจารย์ลี ธัมมะธะโร) จากหน้า 67-72
- แสงธรรมเล่มที่ 25 ม่านสุรีย์_พระบ่อน้ำ (พระอาจารย์เสถียร สมาจาโร) จากหน้า 1-7
.
เริ่มต้นด้วยแสงธรรมเล่มที่ 9 คำของท่าน ชื่อตอนว่า เจ้าคุณนรฯ (พระยานรรัตนราชมานิต) จากหน้า 53-62
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.ถัดไปคือ แสงธรรมเล่มที่ 23 เย็นลออตอน รู้วันตายหลวงพ่อลี (พระอาจารย์ลี ธัมมะธะโร) จากหน้า 67-72
.
.
.
.
.
.
.และเล่มสุดท้ายของวันนี้ แสงธรรมเล่มที่ 25 ม่านสุรีย์_พระบ่อน้ำ (พระอาจารย์เสถียร สมาจาโร) จากหน้า 1-7
.
.
.
.
.
.
.
.ภายในเนื้อหาทั้งสามเรื่องนี้ มีข้อคิดมากมายที่แฝงอยู่ภายใน และข้าพเจ้าคิดว่าคงไม่ได้หาอ่านกันง่ายๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำมาเผยแพร่ เพื่อเป็นธรรมทาน
.
บทความทั้งสามเรื่อง ส่งเสริมคำที่กล่าวว่า "บุคคลผู้ที่ฝึกจิตดีแล้ว จะไม่กลัวความตายอย่างแน่นอน"
.
สุดท้ายผมขอขอบคุณอาจารย์วิวัฒน์ กิรานนท์ ผู้เรียบเรียง รวมถึงขอขอบพระคุณผู้สนับสนุนการพิมพ์ทุกๆท่าน ทำให้ได้มีหนังสือแสงธรรมอ่านครับ
.
หมายเหตุ ท่านสามารถคลิกเลือกที่รูปภาพ เพื่อขยายอ่านได้ และขออภัยที่ไม่ได้เรียงตามลำดับชุดแสงธรรม
.
สวัสดีครับ
.

