.
แต่ทางครอบครัวของข้าพเจ้าได้ตัดสินใจเดินทางผ่าน จ.มุกดาหาร เมื่อเปิดแผนที่ดู ปรากฎว่าใกล้กับวัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) นั่นก็คือวัดที่หลวงปู่หล้ามาจำพรรษาอยู่นั่นเอง และหลวงปู่หล้าอยู่ที่นี่จนถึงวาระสุดท้าย ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจต้องเดินทางไปวัดหลวงปู่หล้าให้ได้
.
เมื่อตอนเรียนอยู่ระดับปริญญาตรี ได้ฟังอาจารย์วิวัฒน์ กิรานนท์ อาจารย์ที่ปรึกษาชมรมพุทธศาสตร์และประเพณี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯลาดกระบัง ได้กล่าวถึงหลวงปู่หล้าอยู่หลายครั้ง (อาจารย์วิวัฒน์ เคยบวชอยู่กับหลวงปู่หล้า) แต่ข้าพเจ้าก็ไม่มีโอกาสเลยสักครั้ง ในการไปวัดภูจ้อก้อแห่งนี้
.
แต่มาในครั้งนี้ ข้าพเจ้าและครอบครัวได้มากราบนมัสการสถานที่ที่ศักด์สิทธิ์แห่งนี้ ที่ครูบาอาจารย์เคยมาจำพรรษาอยู่แห่งนี้ ถือว่าเป็นสิริมงคลแก่ข้าพเจ้าและครอบครัวเป็นอย่างมาก
.
ข้าพเจ้าเคยเห็นแต่ในรูป "เขมปัตตเจดีย์" ในหนังสือธรรมะ แต่คราวนี้ได้มีโอกาสมากราบนมัสการเจดีย์ที่เก็บอัฐบริขาร เครื่องใช้ของท่านหลวงปู่หล้า
.
ภายในเจดีย์ จะมีรูปเหมือนของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต และอัฐิธาตุของหลวงปู่หล้า เพื่อให้พุทธศานิกชนได้กราบไหว้ ระลึกถึงคำสั่งสอนของท่าน
.
ความโชคดีของข้าพเจ้ายังไม่หมดเท่านั้น ปรากฎว่ามีผู้ใจบุญ ได้พิมพ์หนังสือชีวประวัติของหลวงปู่หล้าแจกเป็นธรรมทานซึ่งวางแจกอยู่ภายในเจดีย์ (ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญด้วย) หนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า "พระหล้า เขมปตฺโต" โดยเนื้อกระดาษเป็น "Green Read" หนาพอสมควร ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะข้าพเจ้าอยากได้มานานแล้ว เพราะหนังสือของหลวงปู่หล้านั้น ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่าหาได้ยากพอสมควร ที่จะมีการทำแจกเป็นธรรมทานกัน
.
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ตอนเที่ยงคืน ข้าพเจ้าก็ได้หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาอ่านสักพัก จริงๆต้องบอกว่าวางไม่ลงจริงๆ เนื้อหานั้นมีคุณค่ามากจริงๆ ตัวอย่างเช่น หลวงปู่หล้าได้เล่าถึงในช่วงวาระสุดท้ายของหลวงปู่มั่น ซึ่งหลวงปู่มั่นท่านป่วย และต้องย้ายหลวงปู่มั่น จากวัดป่าหนองผืด มายังวัดป่าสุทธาวาส และตัวอย่างอีกช่วงที่ท่านหลวงปู่มั่นมีลมหายใจอ่อนลงเบาบางลง เป็นต้น ข้าพเจ้าไม่สามารถเล่าให้ฟังได้ เพราะหลวงปู่หล้าได้เขียนลึกซึ้งอย่างมาก ผู้สนใจสามารถไปยืมได้ที่ห้องสมุดชมรมพุทธฯ พระจอมเกล้าฯลาดกระบัง (ข้าพเจ้าจำได้ว่าที่ชมรมฯ มีหนังสือเล่มนี้อยู่)
.
อนึ่ง ข้าพเจ้าลืมบอกไปว่า ในช่วงอายุสุดท้ายของหลวงปู่มั่น มีพระอาจารย์ที่ได้อยู่ใกล้ และได้ดูแลองค์หลวงปู่มั่น เช่น ครูบาวัน (ปัจจุบันคือพระอาจารย์วัน อุตตโม) ครูบาทองคำ(หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ) ครูบาสีหา (อดีตพระสีหา สุธัมโม ปัจจุบันคือฆราวาส) รวมถึงครูบาหล้า (ปัจจุบันคือหลวงปู่หล้า เขมปัตโต)
.
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นและเรียบเรียงโดยหลวงปู่หล้าเอง มีอีกประเด็นที่ข้าพเจ้าอยากฝากไว้และไม่สามารถหาอ่านได้ที่ใด เกี่ยวกับลักษณะพิเศษของหลวงปู่มั่นที่หลวงปู่หล้าได้บันทึกไว้ คือ "ฝาเท้าของหลวงปู่มั่น เต็มไปด้วยตารางหมากรุกทั้งสองฝาเท้า"
.




.
ข้าพเจ้าขอเขียนเล่าเพียงเท่านี้ พอแก่เวลา สวัสดีครับ
.
กิตติวัฒน์ สิริเกษมสุข
17 เมษายน 2553
.
หมายเหตุ รูปทุกรูปสามารถคลิกเลือก เพื่อขยายใหญ่ได้