13 ตุลาคม 2552

ย้อนหลัง...ไปญี่ปุ่น ตอนที่ 2

แน่นอนครับ วันนี้ผมอยากจะปิดฉาก เรื่องราวที่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งผมได้ไปมาตั้งหลายปีที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 22-27 พฤษภาคม 2549
.
จากบทความก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเมืองโยโกฮาม่า ครับวันนี้เป็นเมืองที่เหลืออีกสองเมือง คือ เมืองคามะคุระ (Kamakura) และเมืองโตเกียว (Tokyo)

เมืองคามะคุระ
- เป็น เมืองเงียบเล็กๆ ทางตอนใต้ของโตเกียว ติดชายฝั่งทะเล
- ได้รับฉายาว่า "เมืองเกียวโตทางตะวันออกของญี่ปุ่น" (the Kyoto of Eastern Japan)
- เมืองนี้มี วัด ศาลเจ้า และอนุเสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์มากมาย
.
1.1) วัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple)
ตั้งแต่อยู่กรุงเทพ กระผมก็ได้มีความมุ่งมั่น ที่อยากจะเดินทางมาวัดนี้มากที่สุด เพื่อนมัสการหลวงพ่อโต ไดบุสึ (Great Buddha or Daibutsu) สถานที่แนะแนวการศึกษาหลายแห่ง มักจะนำเอาภาพขององค์พระท่าน มาช่วยประชาสัมพันธ์ เพื่อเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น
.
แน่นอนที่สุดครับในวันที่สองของการอยู่ที่นี่ ผมรีบเดินทางมาที่นี่ก่อนเป็นอันดับแรกๆ


ตามประวัติคราวๆ หลวงพ่อโต ไดบุสึ มีความสูง 13.35 เมตร โดยเป็นพระพุทธรูปปางนั่งสมาธิที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว องค์ไดบุสึนี้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1252 ทำด้วยบรอนซ์ทั้งองค์ เคยตั้งอยู่ในอารามไม้ใจกลางของวัด ต่อมาปลายศตวรรษที่ 15ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น และส่งผลให้เกิด"คลื่นสึนามิ" ในแถบนี้ จนกระทั่งทำลายตัวอารามไปทั้งหมด เหลือไว้เพียงองค์ไดบุสึ ตั้งเด่นเป็นสง่าตราบจนทุกวันนี้
.
โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปในตัวองค์พระได้ด้วยครับ
.

จริงๆแล้ว ตั้งใจจะมาวัดแห่งนี้ที่เดียว แล้วเดินทางกลับไปยังเมืองโยโกฮาม่า แต่เห็นว่ายังมีวัดที่อยู่ใกล้วัดหลวงพ่อโต ไม่ไกลมาก ดังนั้นผมจึงแวะไปที่วัดฮาเซะเดระ



.
1.2) วัดฮาเซะเดระ (Hasedera หรือ Hase Kannon)
จากวัดหลวงพ่อโต เราเดินมาไม่ไกลนัก ก็จะพบทางเข้าวัดวัดฮาเซะเดระ
วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน พุทธรูปโพธิสัตว์คันนง (กวนอิม) ซี่งเจ้าแม่กวนอิมถูกแกะสลักจากไม้หุ้มทองปาง 11 พักตร์ สูงถึง 9.18 เมตร และใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เขาไม่ให้ถ่ายรูป ผมได้แค่ถ่ายรูปเพียงข้างหน้าของโบถส์เท่านั้นครับ
.

.
มาวัดแห่งนี้ต้องถ่ายรูปที่มุมนี้ครับ แต่ผู้คนค่อนข้างจะเยอะ เด็กญี่ปุ่นก็มาทัศนศึกษากันก็เป็นจำนวนมาก และจากการสังเกตก็จะพบว่า เขาไม่ค่อยแคร์ใคร หมายถึงว่า มีคนกำลังถ่ายรูปกรุณาอย่าเดินผ่านมานะ ก็จึงติดหน้าสาวเด็กญี่ปุ่นมาด้วยครับ มีหลักฐานชัดเจนว่ามาญี่ปุ่น

อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่า เมืองคามะคุระ เป็นเมืองติดชายฝังทะเล วัดแห่งนี้สามารถยืนชมวิวทิวทัศน์ เพื่อดูบ้านเมืองและทะเลของที่นี่ เขาบอกกันว่า ทะเลที่นี่ขึ้นชื่อมาก แต่ผมไม่มีโอกาสไปทะเลนะครับ
ยังจำเด็กสาวทางซ้ายมือได้ไหมครับ ผมได้ถ่ายรูปเก็บไว้อีกครั้ง
ลองดูรูปบรรยายกาศรอบวัดแห่งนี้ดูนะครับ







หลังจากที่เยี่ยมเยือนวัดทั้งสองแห่ง ก็นั่งรถไฟกลับมายังสถานีแห่งหนึ่ง (ผมจำชื่อไม่ได้) ที่เชื่อมต่อระหว่าง สายรถไฟที่ไปยังเมืองโยโกฮาม่า กับ ไปวัดวัดโคโตคุอิน (วัดหลวงพ่อโต) เดินมั้วไป มั้วมา ก็ไปเจอหอนาฬิกา คนก็ถ่ายรูปกันพอสมควรครับ

ครับ วัดสุดท้ายที่ผมแวะมานมัสการนั้น คือ ศาลเจ้าซึรุงะโอกะ ฮาจิมังกุ จริงๆแล้วผมก็อยากจะไปอีกหลายวัด แต่เวลามันจำกัดจริงๆ ก็ใช้การ "เดิน" เพื่อไปวัดดังกล่าว ซึ่งก็ต้องผ่านถนนแห่งหนึ่ง ซึ่งจะขายขนมตลอดข้ามทาง ผู้คน นักท่องเที่ยวมากมายครับ
.
1.3) ศาลเจ้าทสึรุงะโอะกะ ฮะจิมังกู (Tsurugaoka Hachimangu Shrine)
เขาเล่ากันว่า เป็นศาลเจ้า แห่งลัทธิ ชินโต ที่ใหญ่ที่สุด (The largest Shinto shrine) ข้างหน้าศาลเจ้าก็จะพบ เสาโทริอิ
ศาลเจ้าซึรุงะโอกะ ฮาจิมังกุ เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขา ก็สวยงามดี รูปนี้คนก็มาถ่ายรูปกันเยอะ ไม่เว้นแต่ชาวญี่ปุ่นของเขาเอง
.
ศาลนี้สร้างขึ้นโดนโชกุนคนแรกของเมืองคามะคุระ เพื่อใช้เป็นสถานที่บูชาเทพเจ้าแห่งสงคราม มีผู้เดินทางมาอธิฐานขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้จำนวนมาก











.
ตอนแรกจะรวมเอาเมืองโตเกียว เข้ามาเขียนไว้ด้วย แต่ไว้วันหลังแล้วกันครับ
.